Latest Posts

WHO ประกาศยกระดับ COVID-19 เป็นการระบาดทั่วโลก ติดเชื้อหลักแสน ตายครึ่งหมื่น !

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นโรคระบาดครั้งใหญ่ของโลก (Pandemic) อย่างเป็นทางการ หลังมีผู้เสียชีวิตทั่วโลก 4,291 ราย

ภาพจาก ทวิตเตอร์ @who

วันที่ 11 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศยกระดับการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 จากโรคระบาด (Epidemic) เป็น โรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic) อย่างเป็นทางการ โดยให้คำนิยามว่า เป็นโรคที่แพร่กระจายระหว่างคนในหลายประเทศทั่วโลกในเวลาเดียวกัน ณ เวลาที่ประกาศมีผู้ติดเชื้อ 118,000 รายทั่วโลก ใน 114 ประเทศ และเสียชีวิต 4,291 ราย และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ขณะนี้ใช้คำว่า Pandemic เนื่องจาก WHO ได้ประเมินการแพร่ระบาดของโรคนี้ตลอดเวลา ขณะนี้มีความกังวลว่าการแพร่ระบาดอยู่ระดับรุนแรงที่น่าตกใจ จึงได้ประกาศให้ COVID-19 เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก และให้นานาประเทศยกระดับมาตรการรับมืออย่างจริงจัง

        “Pandemic ไม่ใช่คำที่ใช้อย่างง่าย ๆ หรือใช้อย่างประมาท มันเป็นคำที่หากใช้ในทางที่ผิดอาจทำให้เกิดความกลัวอย่างไม่มีเหตุผล เกิดการยอมรับอย่างไม่ยุติธรรมว่าการต่อสู้ได้จบลง หรือนำไปสู่ความทุกข์ทรมานและความตายที่ไม่จำเป็น”

“เราไม่เคยเห็นการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสเช่นนี้มาก่อน นี่คือการระบาดใหญ่ครั้งแรกที่เกิดจากโคโรนาไวรัส และเราไม่เคยเห็นการระบาดใหญ่ที่สามารถควบคุมได้ในเวลาเดียวกัน WHO อยู่ในโหมดตอบสนองเต็มรูปแบบตั้งแต่เราได้รับแจ้งจากกรณีผู้ป่วยรายแรก และเราได้เรียกร้องให้ทุกประเทศดำเนินการอย่างเร่งด่วนและเข้มงวดเราได้ปลุกเสียงสัญญาณเตือนภัยอย่างดังและชัดเจน” ทีโดรส กล่าว

 

การระบาดใหญ่ทั่วโลก (Pandemic) คืออะไร?

เว็บไซต์ขององค์การฯ ให้นิยามของคำว่า Pandemic ว่าเป็น “การระบาดของโรคชนิดใหม่ที่กระจายวงกว้างทั่วโลก”

การระบาดใหญ่ทั่วโลกไม่จำเป็นต้องหมายถึงความรุนแรงของโรค แต่มีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดเชิงภูมิศาสตร์ ส่วนอีกคำจำกัดความที่ปรากฏในตำรา “ระบาดวิทยา 101” ระบุว่าการระบาดใหญ่ทั่วโลกเป็น “การระบาดของโรคที่เกิดขึ้นทั่วโลก หรือในพื้นที่เป็นวงกว้างอย่างยิ่ง ข้ามเขตแดนระหว่างประเทศ และมักส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก”

คำดังกล่าวมักใช้กับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ และ “การระบาดใหญ่ทั่วโลกของโรคไข้หวัดใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมาและแพร่กระจายไปทั่วโลก โดยที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีภูมิคุ้มกัน” องค์การฯ ระบุในเว็บไซต์ “ไวรัสที่ทำให้เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลกในอดีตมักมีต้นกำเนิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ในสัตว์”

ทีโดรสกล่าวว่าการกำหนดให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลก จะไม่เปลี่ยนแปลงการประเมินภัยคุกคามที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ขององค์การฯ รวมถึงไม่กระทบต่อสิ่งที่องค์การฯ กำลังดำเนินการและสิ่งที่ประเทศต่างๆ ควรดำเนินการเช่นกัน

ไมเคิล ไรอัน (Michael Ryan) ผู้อำนวยการใหญ่โครงการเหตุฉุกเฉินด้านสุขภาพขององค์การฯ ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 มี.ค.) โดยระบุว่าการระบาดใหญ่ทั่วโลก “คือลักษณะหรือคำอธิบายของสถานการณ์” พร้อมกับย้ำว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะไม่ก่อให้เกิดสิ่งอื่นใดนอกเสียจากมาตรการที่เข้มงวดและเชิงรุกมากยิ่งขึ้น

ทำไมจึงประกาศตอนนี้?

ไรอันระบุว่าองค์การอนามัยโลกได้ปรึกษาหารือทั้งภายในและภายนอกหลายครั้ง เพื่อประเมินการใช้คำว่า “การระบาดใหญ่ทั่วโลก” ในการบ่งบอกลักษณะของโรคโควิด-19

คริส วิตตี (Chris Whitty) หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ และหัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ แผนกสุขภาพและประกันสังคม

คริส วิตตี (Chris Whitty) หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ และหัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ แผนกสุขภาพและประกันสังคม ระบุว่า “การประกาศโดยองค์การอนามัยโลกในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป มีการแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศ”

“ยังมีความท้าทายต่างๆ รออยู่ภายภาคหน้า และเราต้องการให้ทุกคนมีบทบาทในการนี้” วิตตีเสริม

ทั้งนี้ หน่วยงานด้านสุขภาพของสหประชาชาติระบุว่าขณะนี้มีรายงานยอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากกว่า 118,000 ราย กระจายตามประเทศและภูมิภาคต่างๆ 114 แห่ง และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้แล้ว 4,291 ราย

ทีโดรสระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ เสียชีวิต และประเทศที่ได้รับผลกระทบ น่าจะสูงขึ้นอีกในอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ข้างหน้า

ขณะที่จีนประสบผลสำเร็จจากความคืบหน้าในการพยายามป้องกันและควบคุมโรค แต่ยอดผู้ติดเชื้อในยุโรปและส่วนอื่นของโลกกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอิตาลี ซึ่งเป็นประเทศนอกจีนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

เมื่อนับถึงวันพุธ (11 มี.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในอิตาลีเพิ่มขึ้นทะลุ 12,000 รายแล้ว แม้จะใช้มาตรการรุนแรงด้วยการปิดเมืองทั้งประเทศก็ตาม

 

Latest Posts

spot_imgspot_img

Don't Miss